วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เสียงยาว สระผสม ตัวสะกด

บทที่ ๔ 
คำเสียงยาว
ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่เสียงสั้นตามที่ได้เรียนผ่านมาเจากบ้นต้นๆเท่านั้น คำเสียงยาวในภาษาญี่ปุ่นก็มี การออกเสียงในภาษาญี่ปุ่นถือว่ามีความสำคัญมาก หากออกเสียงผิดความหมายก็ผิด คล้ายๆกับ ภาษาไทย เช่น ไป กับ ปาย หากผู้อ่านออกเสียงสั้นและยาวผิดไปความหมายก็ผิดเช่นกัน ส่วนภาษาญี่ปุ่น ขอยกตัวอย่างสักนิดหน่อยเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้น おばさんโอะบะซัง กับ おばあさん โอะบาซัง
โอะบะซัง มีความหมายว่า ป้า น้า หรืออา (พี่หรือน้องผู้หญิงของพ่อ)
โอะบาซัง มีความหมายว่า ย่า และยาย (ต่างกันมากเลย ใช่ไหมครับ) 
เสียงสั้น คือสระเสียงสั้น เช่น อะ อิ อุ เอะ โอะ ~
เสียงยาว คือสระเสียงยาว เช่น อา อี อู เอ โอ~
ข้าพเจ้าขอเทียบเสียงกับภาษาไทยเพื่อง่ายต่อการเรียนรู้ต่อคนไทย
ส่วนเสียงยาวซึ่งเขียนเป็นอักษรโรมาจิ เขียนโดยการซ้ำเสียงสระวรรคนั้นๆเพิ่มมาอีกหนึ่งตัว เช่น obaasan | okaasan

การออกเสียงหรือเขียนเสียงยาว มีวิธีเช่นนี้
  • พยางค์ ที่มีเสียง อะ ให้เติม  เข้าไป เช่น

さん อ่านว่า โอะบาซัง แปลว่า คุณย่า.คุณยาย
さん อ่านว่า โอะคาซัง แปลว่า คุณแม่ 
  • พยางค์ ที่มีเสียง อิ ให้เติม  เข้าไป เช่น
さん อ่านว่า โอะยีซัง แปลว่า คุณปู่, คุณตา (ข้าพเจ้าขอใช้การอ่านออกเสียงสั่นสะเทืิอน ของคำว่า jii เป็น ยี นะครับ)
さん อ่านว่า โอะนีซัง แปลว่า พี่ชาย
  • พยางค์ ที่มีเสียง อุ ให้เติม  เข้าไป เช่น
たい อ่านว่า ทัยฟู แปลว่า พายุไต้ฝุ่น
   อ่านว่า ทะโร่ แปลว่า ทาโโร่(ชื่อบุคคล (วิสามัญนาม))
  • พยางค์ ที่มีเสียง เอะ ให้เติม  เข้าไป เช่น
さん อ่านว่า โอะเนซัง แปลว่า พี่สาว
*แต่มีบางกรณี จะเติม อักษร เป็นส่วนมาก เพื่อออกเสียง "เอ" ให้ยาวยิ่งขึ้น เช่น
 อ่านว่า โทะเค แปลว่า นาฬิกา
がく อ่านว่า กะคุเซ (ออกเสียงจริง จะเป็น กักเซ) แปลว่า นักเรียน
と อ่านว่า เซโตะ แปลว่า นักศึกษา
ご อ่านว่า เอโกะ แปลว่า ภาษาอังกฤษ
  • พยางค์ ที่มีเสียง โอะ ให้เติม  เข้าไป เช่น
きい อ่านว่า โอคี แปลว่า ใหญ่
り อ่านว่า โทริ แปลว่า ถนน

**เช่นเดียวกับ กรณีเสียง เอะ ที่เติม เสียง อิ ตามเพื่อเพิ่มให้เป็นเสียงยาว
ในทางกลับกัน เสียง โอะ「お」 ก็จะใช้ เสียง อุ「う」 เพิ่มเข้ามาเพื่อให้เสียงโอะยาวขึ้นเป็นเสียง โอ ตัวอย่างเช่น
えん อ่านว่า โคเอ็น แปลว่า สวนสาธารณะ
ぎん อ่านว่า กิงโค แปลว่า ธนาคาร (ที่ออกเสียง ん เป็น เสียง ง.งู ถึงแม้ว่า เสียง อึ้ง สามารถออกเสียง ได้ถึง ๓ เสียง ดังนี้ อึ้ง อึ้น และ อึ้ม เพราะ จะเป็นการสะดวกในการออกเสียง พยัญชนะหลังที่ ง.งู และ ค. ควาย เวลาออกเสียงจุดกำเนิดจะอยู่ที่เดียวกัน ลองสังเกตุดู โดยออกเสียง "ง" และ "คู" จะต่างกันเพียงแค่ เสียง ง.งู เป็นเสียง สั่นสะเทือน(VOICED)(ลองสัมผัสคอเร็วๆเข้า) ส่วน ค.ควาย เป็นเสียงไม่สั่นสะเทือน(VOICELESS)
ふ อ่านว่า โมฟุ แปลว่าผ้าห่ม


สระผสม
สระผสม คือ การนำอักษร วรรค や ゆ よ ไปผสมกับอักษรวรรค อิ บางเสียง ดังนี้
วรรค き し ち に ひ み り และรวมทั้ง พวกที่เติม ดะกุเต็ง(ฟันหนู) และฮันดะกุเต็ง) ด้วย คือ ぎ じ ぢ び ぴ โดยอักษร วรรค や ゆ よ จะเขียนเป็นตัวเล็กกว่าครึ่งหนึ่ง ตัวอย่างเช่น きゃ และออกเสียงเป็นเสียงสั้น


きゃ เคียะ  きゅ คิ้ว きょ เคิ้ยว
しゃ เชียะ  しゅ ชิ้ว   しょ เชิ้ยว
ちゃ เจียะ  ちゅ จิ้ว  ちょ เจิ้ยว
にゃ เนียะ  にゅ นิ้ว にょ เนิ้ยว
ひゃ เฮียะ  ひゅ ฮิ้ว ひょ เฮิ้ยว
みゃ เมียะ  みゅ มิ้ว みょ เมิ้ยว
りゃ เรียะ    りゅ ริ้ว  りょ เริ้ยว
ぎゃ เกียะ  ぎゅ กิ้ว  ぎょ เกิ้ยว
じゃ เยียะ  じゅ ยิ้ว    じょ เยิ้ยว
ぢゃ เยียะ  ぢゅ ยิ้ว  ぢょ เยิ้ยว
びゃ เบียะ  びゅ บิ้ว  びょ เบิ้ยว
ぴゃ เปียะ  ぴゅ ปิ้ว  ぴょ เปิ้ยว
กรณีเป็นเสียงยาว ให้เติม あ ท้าย や ส่วน う ท้าย ゆ กับ よ
きゃあ เคีย きゅう คีว きょう เคียว
しゃあ เชีย しゅう ชีว しょう เชียว
ちゃあ เจีย ちゅう จีว ちょう เจียว
にゃあ เนีย にゅう นีว にょう เนียว
ひゃあ เฮีย  ひゅう ฮีว ひょう เฮียว
みゃあ เมีย みゅう มีว みょう เมียว
りゃあ เรีย  りゅう  รีว  りょう เรียว
ぎゃあ เกีย ぎゅう กีว  ぎょう เกียว
じゃあ เยีย  じゅう ยีว  じょう เยียว 
ぢゃあ เยีย ぢゅう ยีว  ぢょう เยียว
びゃあ เบีย びゅう บีว びょう เบียว
ぴゃあ เปีย ぴゅう ปีว ぴょう เปียว
โดยส่วนตัว จากประสบการณ์ที่ผ่านมาตอนสมัยเรียน เมื่อฟังอาจารย์ชาวญี่ปุ่น ตอนออกเสียง
วรรค ~ゅう จะออกเสียงเพียงแค่เสียงวรรค อุ แต่ออกเสียงยาวมากขึ้น (ที่ข้าพเจ้าต้องเขียน เสียง อีว เพื่อที่จะให้ผู้อ่านเห็นว่าเมื่ออักษรผสม มาผสมกันจะออกเสียงเป็นอย่างไร) หากสังเกตุตามหลักสัทศาสตร์ (การออกเสียง) เสียง อิ ของอักษรหน้า き เมื่อผสมกับ เสียง อุ ของเสียง ゆ
เวลาออกเสียงเร็วๆ จะกลายเป็น คุ 「く」(ให้สังเกตุ เวลาเราออกเสียงจบ ปากของเราจะจู๋) เมื่อมีเสียง อู 「う」ต่อท้ายเข้ามาจึงไปเข้ากฏข้างต้นคือการออกเสียงยาว ดังนี้ คุ บวก อุ กลายเป็นคู 「く+う=くう」ตัวอย่างเช่น
きゅう ส่วนมากกออกเสียงว่า คู
しゅう ส่วนมากออกเสียงว่า ชู
ちゅう ส่วนมากออกเสียงว่า จู

อักษรตัวสะกด
การใช้อักษรตัวสะกดในภาษาญี่ปุ่น จะใช้ ทสุ「つ」ตัวเล็ก ซึ่งจะถูกวางระหว่างตัวอักษรทำหน้าที่เป็นตัวสะกดผันแปล โดยจะเปลี่ยนเสียงได้ขึ้นอยู่กับตัวอักษรที่แทรก ตัวอย่างเช่น
がっこう อ่านว่า กักโค แปลว่า โรงเรียน เมื่อสังเกตุ อักษรโรมาจิ จะเขียนได้ดังนี้ gakkoo
きって อ่านว่า คิตเตะ แปลว่า แสตมป์ เมื่อดูการเขียน อักษรโรมาจิ จะเเขียนดังนี้ kitte
きっぷ อ่านว่า คิปปุ แปลว่า ตั๋ว อักษรโรมาจิ เขียนได้ดังนี้ kippu
ざっし อ่านว่า ซัชชิ (ตรงคำว่า ซัช ต้องสั่นสะเทือนด้วยนะ<VOICED>) แปลว่า นิตยสาร อักษรโรามาจิ เขียนดังนี้ zasshi
การใช้อักษรตัวสะกดตัวที่ 2 ในภาษาญี่ปุ่น คือ อึ้ง 「ん」<n>
อึ้ง สามารถผันแปลเสียงได้เช่นเดียวกับ ทสึ ตัวเล็ก แต่แตกต่างกันเพียงแค่ อึ้ง มีแค่ 3 เสียง ได้แก่ เสียง ง.งู เสียง น.หนู และเสียง ม.ม้า ทั้งนี้และทั้งนั้น การจะออกเสียง ง.งู น.หนู หรือ ม.ม้า ต้องขึ้นอยู่กับอักษรที่ตามหลังเสียง อึ้ง ในพยางค์นั้น ว่าเป็นเสียงพยางค์ส่วนไหน

อึ้ง จะออกเสียงเป็น ง.งู เมื่อ ん อยู่หน้าเสียงเสียดแทรกและกึ่งเสียดแทรก (พวก เซอะๆและ เชอะๆ นั่นแหละ) ท้ายพยางค์ (พยัญชนะหลัง พวก เงอะ เคอะ) (แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าเป็น พยัญชนะหลัง รู้ได้สิ ให้ลองสังเกตุเวลาเราออกเสียง ง.งู โคนลิ้นของเราจะไปแตะตรงเพดานอ่อน ตรงนั้นนั่นแหละเขาเรียกว่า จุดกำเนิดเสียงส่วนที่ 3) เช่น
きっさて อ่านว่า คิสสะเต็ง แปลว่า ค็อฟฟี่ช็อป (ร้านขายกาแฟ) 
らーめ อ่านว่า ราเม็ง แปลว่า บะหมี่ 
 อ่านว่า เม็ง แปลว่า ก๋วยเตี๋ยว
せっけ อ่านว่า เซ็คเค็ง แปลว่า สบู่
ゃอ่านว่า เด็งชะ แปลว่า รถไฟ
ゆうびゃく อ่านว่า ยูบินเคียะคุ (ยูบินเคียก) แปลว่า ที่ทำการไปรษณีย์

อึ้ง จะออกเสียงเป็น น. หนู เมื่อ ん อยู่หน้าเสียง น. หนู และ ท้ายพยางค์ (สังเกตุเวลาเราออกเสียง น.หนู ปลายลิ้นของเราจะไปแตะตรงเพดานแข็ง ตรงนั้นนั่นแหละเขาเรียกว่า จุดกำเนิดเสียงส่วน น. ท. จ. ร. ล. ฤ. ฦ. ฬ. เช่น
しんちゃん อ่านว่า ชินจัง แปลว่า เจ้าหนูชิจัง
しゃしん อ่านว่า ชะชิน แปลว่า รูปถ่าย
「円」えん อ่านว่า เย็น แปลว่า เงินเยน
びょういん อ่านว่า เบียวอิน แปลว่า โรงพยาบาล

อึ้ง จะออกเสียงเป็น ม. ม้า เมื่อ ん อยู่หน้าเสียง บ. ใบไม้, ป. ปลา และ ม. ม้า  (พวกพยางค์หน้า จำง่ายเมื่อเราออกเสียงต้องหุบปากถึงจะเกิดหน่วยเสียง ตรงนี้แหละ ที่เราต้องออกเสียงอึ้ง เป็น อึ้ม (สังเกตุเวลาเราออกเสียง ม.ม้า เรา ต้องนำริมฝีปากบนและล่างประกบกันให้สนิท เพื่อที่จะออกเสียงจริงไหม) เช่น
しんぶん อ่านว่า ชิมบุน แปลว่า หนังสือพิมพ์
てんぷら อ่านว่า เท็มปุระ แปลว่า เทมปุระ
かんぱい「乾杯」 อ่านว่า คัมไป แปลว่า ไชโย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น